อับดุลหาดี/ยะลา/11 ส.ค. 66
ชาวสวนทุเรียนยะลา ดำเนินการขอใบรับรองผลผลิต GAP อย่างต่อเนื่อง หลังจาก ทางจังหวัดยะลา ดำเนินมาตรการคุมเข้ม ต้องมีใบ GAP ก่อนส่งผลผลิตสู่ท้องตลาด ป้องกันการสวมสิทธิ์และการตัดทุเรียนอ่อน
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 66 นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางลงไปยังสำนักงานเกษตรอำเภอธารโต จ.ยะลา เพื่อตรวจดูการดำเนินการตามนโยบาย การคุมเข้มปัญหาทุเรียนอ่อน โดยให้ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรยะลา ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งใน จ.ยะลา ทำการ อบรม ให้ความรู้ แนะแนวทางการพัฒนาคุณภาพผลผลิต รวมถึงตรวจสอบเอกสาร จำนวนพื้นที่ปลูก และพิกัดพื้นที่ปลูก เพื่อออกใบรับรองผลผลิต หรือ GAP ให้กับชาวสวนทุเรียน ที่นำเอกสารหลักฐาน มาดำเนินการ เพื่อทำการตรวจสอบตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
โดยปีที่ผ่านมาที่มีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดจำนวน 28,622 ตัน ซึ่งในปี 2566 นี้ มีรายงานว่า จังหวัดยะลา มีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 96,233 ไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.10) ทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้ว จำนวน 66,788 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวน 76,741 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 98.97 แนวโน้มการปลูกทุเรียนของจังหวัดยะลาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะมีเงินหมุนเวียนในระบบการซื้อขายและดำเนินการประมาณ 10,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน หลังจากที่ทางจังหวัดยะลา ได้หารือกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรยะลา สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา เพื่อหาแนวทางมาตรการป้องกันการตัดทุเรียนอ่อนขาย โดยให้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพทุเรียนในระยะยาว และพัฒนาคุณภาพทุเรียนยะลา ป้องกันและแก้ไขปัญหาหนอนเจาะทุเรียน และการผลักดันให้เกษตรกรได้รับการรับรองมาตรฐาน คือมีใบรับรอง GAP (Good Agricultural Practices) เป็นหลักปฏิบัติทางการเกษตรเพื่อผลผลิตปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด ครอบคลุมการผลิตครบวงจรตั้งแต่ปัจจัยการผลิต การผลิตโดย กระบวนการผลิตต้องปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว การบรรจุหีบห่อปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมี ไม่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม มีความยั่งยืนทางการเกษตร สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ที่สำคัญเป็นมาตรฐานที่ผู้ส่งออกต้องใช้รับรองผลผลิตที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยในปัจจุบันสวนทุเรียนในจังหวัดยะลา มีใบรับรอง GAP ร้อยละ 12 หรือ 2,216 แปลง จำเป็นต้องสนับสนุนให้เกษตรกรที่เหลือขอใบรับรอง GAP ให้มากที่สุดเพื่อให้ทุเรียนยะลาเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
ซึ่งในวันนี้ (11 สค.66) ที่สำนักงานเกษตรอำเภอธารโต จ.ยะลา ก็มีเกษตรกรชาวสวนทุเรียน นำเอกสารหลักฐานเข้ามาดำเนินการ เพื่อขอใบรับรอง GAP ให้กับผลผลิตของสวน ซึ่งล่าสุดจากการรายงานของสำนักงานเกษตรจังหวัด พบว่า อำเภอกรงปินัง มีเกษตรกรเจ้าของสวนมายื่นเอกสารจำนวน 12 ราย รวมพื้นที่ปลูก 100 ไร่ อำเภอยะหา มีเกษตรกรชาวสวนมายื่นเอกสารจำนวน 26 ราย พื้นที่ปลูก 116 ไร่ 3 งาน และ อำเภอบันนังสตา มีเกษตรกรชาวสวนมายื่นเอกสารเพิ่มจำนวน 103 ราย รวม 763 ไร่ และอำเภอธารโต มีเกษตรกรมายื่นเอกสารเพิ่มจำนวน 238 ราย รวมพื้นที่ปลูก 2,010 ไร่
โดยนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในปีนี้ผลผลิตทุเรียนของจังหวัดยะลา ออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก และตามนโยบายของทางจังหวัดในการผลักดันให้ผลผลิตทุเรียนของจังหวัดยะลา เป็นพืชเศรษฐกิจอันดับต้น ๆ ที่ทำรายได้ให้ทางจังหวัด และยังทำรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนทุเรียน ได้ลืมตาอ้าปากได้ ในขณะที่สภาวะเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนมาอย่างต่อเนื่อง แต่นับเป็นโชคดีของเกษตรกรชาวสวนทุเรียน จึงต้องมีการควบคุมคุณภาพผลผลิต ก่อนที่จะขนส่งสู่ตลาดและส่งออกไปยังประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีข้อสั่งการไปยังสำนักงานเกษตรทุกอำเภอให้ทำการประชาสัมพันธ์ ชี้แจง สร้างความเข้าใจเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนรับทราบ รวมไปถึงพ่อค้าคนกลางที่เข้ามารับซื้อ ต้องมีใบ GAP แสดงต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อผ่านด่านตรวจ เพื่อเป็นการป้องกันการสวมสิทธิ์ทุเรียนยะลา และป้องกันการตัดทุเรียนที่ไม่มีคุณภาพส่งขาย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดความเสียหายในระยะยาว หากพบว่าทุเรียนจากจังหวัดยะลาที่ส่งไปนั้นไม่ได้มาตรฐานและคุณภาพอย่างที่ตลาดต้องการ
ด้านนางสาวเกตุแก้ว ซ้วนลิ้ม ชาวสวนทุเรียนใน อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งได้นำเอกสารมาขอรับรับรองคุณภาพทุเรียน ได้เปิดเผยว่า หลังจากได้รับทราบจากการประชาสัมพันธ์และการบอกต่อ ก็ได้นำหลักฐานมาขอใบรับรองคุณภาพทุเรียนจากสำนักงานเกษตรอำเภอ ซึ่งปัจจุบันการยื่นขอใบรับรองสามารถทำได้สะดวกที่สำนักงานเกษตร และอยากเชิญชวนชาวสวนทุเรียนที่ยังไม่ทราบ หรือยังไม่มีใบรับรองคุณภาพผลผลิต ให้มาดำเนินการหรือ สอบถามที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งของจังหวัดยะลา เพื่อร่วมกันผลักดันให้ผลผลิตทุเรียนยะลาเป็นทุเรียนที่มีคุณภาพสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งพ่อค้าคนกลางและพ่อค้ารายใหญ่ในการส่งออกอีกทั้งในอนาคตอาจจะส่งผลให้ราคาทุเรียนยะลาสูงขึ้นอีกด้วย
|