 |
ข่าวภูมิภาค |
 |
พ่อพาลูกชายอายุ 11 ปี ร้องทนายดังถูกเพื่อนแกล้งในโรงเรียนเอกชนชื่อดังจนขาหัก ต้องจ่ายค่ารักษาเองกว่า 1 แสนบาท โรงเรียนปัดรับผิดชอบ
นนทบุรีพ่อพาลูกชายอายุ 11 ปี ร้องทนายดังถูกเพื่อนแกล้งในโรงเรียนเอกชนชื่อดังจนขาหัก ต้องจ่ายค่ารักษาเองกว่า 1 แสนบาท โรงเรียนปัดรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ส.ค.66 ที่ สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายณัชฐ์ปกรณ์ ดำรงค์กูลสมบัติ อายุ 51 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว พาน้องพอร์ช ลูกชาย อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจ.ปทุมธานี นำหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียน ขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพชรประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมให้ช่วยเหลือ หลังลูกชายถูกเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันแกล้งทำร้ายร่างกายจนขาข้างซ้ายหักต้องพักรักษาตัวนานเกือบ 3 เดือน จนทุกวันนี้ลูกชายยังไม่ได้ไปโรงเรียนต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่ทางโรงเรียนกลับไม่มีการออกมารับผิดชอบแต่อย่างใด ร่วมถึงผู้ปกครองนักเรียนที่ก่อเหตุ ตนต้องรับผิดชอบจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูกเองกว่า 1 แสนบาท
นายณัชฐ์ปกรณ์ กล่าวว่าวันนี้ตนเดินทางมาร้องทนายรณณรงค์เนื่องจากลูกชายถูกทำร้ายร่างกายจากเพื่อนในห้องเดียวกัน ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ไม่มีใครออกมารับผิดชอบ ทั้งโรงเรียน ผู้ปกครองของเด็กที่ทำร้าย วันเกิดเหตุคุณครูโทรมาบอกว่าน้องพอร์ชขาหัก ตนจึงรับมาโรงพยาบาลเห็นลูกนอนร้องไห้ นอนรอหมอกระดูกบนเตียง หลังจากนั้นหมอได้ทำการเข้าเฝือกปูนอย่างหนาให้ ลูกชายเล่าให้ตนฟังว่าโดนเพื่อนคู่กรณีทุ่มจากด้านหลัง เอาผ้าขนหนูมาตีที่หลัง 3-4 ครั้ง จนไปโดนหูและหัวจนวิ้ง น้องพอร์ชจึงตีคืน ภาพที่ตนเห็นในห้องวงจรปิดคือทั้งน้องพอร์ชและเด็กคู่กรณีต่างคนต่างเอาผ้าขนหนูตีกัน หลังจากนั้นน้องพอร์ชจึงหยุดและเดินมานั่งที่เดิม เด็กคู่กรณีมีน้ำหนักเยอะกว่าได้จับน้องพอร์ชทุ่มจากด้านหลังแล้วนั่งทับ ภาพในกล้องวงจรปิดถูกตัดออก หลังจากนั้นมีเด็กวิ่งไปแจ้งคุณครูจึงนำตัวน้องพอร์ชส่งโรงพยาบาล วันนี้ที่ตนเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์เพราะตนเป็น FC ของทนาย และอยากให้ลูกของตนได้รับความเป็นธรรมอย่างที่สุด เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นจนมาถึงวันนี้ยังไม่มีผู้ใดออกมารับผิดชอบเลย ตนติดต่อฝั่งผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี หรือทางโรงเรียนก็ไม่เคยมีการติดต่อกลับมา ติดต่อไปยังผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ให้คุย บอกว่าต้องทำเรื่องขอคุย ถ้าเรื่องไม่สมเหตุสมผลทางผู้บริหารจะไม่คุยด้วย ตนจึงตัดสินใจไลน์ไปยังคุณครูที่ติดต่อกันประจำ ทั้งตัดพ้อ การสอบถามเรื่องการเรียนที่ต้องหยุดเรียนเป็นเดือน น้องพอร์ชเหมือนถูกทิ้ง คุณครูไม่เคยบอกว่าน้องพอร์ชจะเรียนให้ทันเพื่อนยังไง น้องพอร์ชไม่ได้สอบกลางภาค ตนสอบถามไปทางคุณครูบอกว่าให้หายดีแล้วค่อยมาสอบถามอีกที ตนเข้าใจว่าทางโรงเรียนไม่ได้สนใจลูกตนเลย ยังมีข่าวลือในโรงเรียนว่าน้องพอร์ชเป็นคนผิดและเด็กคู่กรณีเป็นฝ่ายถูก ซึ่งทางฝั่งเด็กคู่กรณีก็ไม่ได้รับการลงโทษใดๆ ผู้ปกครองยังไปส่งลูกเรียนตามปกติที่โรงเรียนทุกวัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อนในห้องบางคนก็ไม่รู้ว่าน้องพอร์ชหายไปเพราะอะไร มันบีบหัวใจตน น้องพอร์ชเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทุกวันนี้เดินยังลงน้ำหนักไม่ได้ปกติ หมอให้ใบรับรองแพทย์มาให้น้องพอร์ชหยุดเรียน 3 เดือน กับอีก 3 อาทิตย์ และจะยังให้หยุดอีกหากอาการยังไม่ดีขึ้น ระหว่างที่น้องพอร์ชอยู่บ้านต้องช่วยเหลือตัวเองเอาถือไถแทนเท้าเพื่อให้ตัวเองสามารถไปเข้าห้องน้ำได้ ตนต้องทำงานก็ต้องคอยกลับมาดูน้องพอร์ชเพราะตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าโรงพยาบาล เสื้อผ้า ค่าอาหารการกินตนต้องเป็นคนจ่ายทุกอย่าง เข้าใจว่ามันเป็นหน้าที่แต่ส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล ซึ่งหมอนัดอาทิตย์เว้นอาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์ครั้ง ลูกตนไม่ได้เดินหกล้มเอง กล้องวงจรปิดจับภาพเห็นอยู่แล้วว่าถูกทำร้าย โรงเรียนไม่เคยออกมาดำเนินการใดๆ หรือติดต่อตน แม้แต่ผู้ปกครองเด็กคู่กรณีก็ไม่เคยติดต่อมา น้องพอร์ชไม่ได้โกรธเพื่อนที่ทำเขา แต่เขาอยากได้รับความเป็นธรรมบ้าง ทำไมไม่มีใครรับผิดชอบ คุณครูไม่สนใจ และทำไมเพื่อนถึงไม่ขอโทษ เหตุการณ์ต่างๆไม่ควรเกิดขึ้นแบบนี้ ตนมืดแปดด้าน ตำรวจดำเนินการระดับนึงแต่มันไม่สิ้นสุด ตำรวจแนะนำให้มาหานักข่าวเพื่อเรื่องจะได้ไวขึ้น
นายณัชฐ์ปกรณ์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากเกิดเรื่อง ได้มีการเข้าไปดูกล้องวงจรปิดในห้องที่เกิดเหตุ มีกล้อง 2 ตัว เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ภาพจากกล้องถูกตัดมาให้เห็นจังหวะที่น้องพอร์ชโดนฟาดแล้ว และตัดจบช่วงที่น้องพอร์ชกำลังจะลุก ถ้าเห็นคลิปยาวกว่านั้นคงบีบหัวใจมากกว่านี้ อยากให้ทางโรงเรียนคืนไฟล์กล้องวงจรปิดให้เรา ที่ใช้คำว่าคืนเพราะลูกของตนอยู่ในเหตุการณ์และไฟล์เป็นของคุณ ไม่ต้องให้ตนก็ได้ แต่ควรให้กับทางตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่กระทำผิด ต้องการรู้ว่าใครผิด ใครถูก ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้โดยไม่มีคนผิด ทำไมโรงเรียนถึงไม่ให้ภาพจากกล้องวงจรปิด หากอ้างว่าอาจทำให้โรงเรียนเสียหาย แต่ไม่ได้พูดชื่อโรงเรียน ไม่ได้ดำเนินคดีกับทางโรงเรียนตัดภาพออกมาให้ มี 2 มุม ทั้งหน้าห้องและหลังห้อง พนักงานสอบสวนส่งหมายขอภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่ให้ ทำหมายเรียกคู่กรณีพร้อมกับภาพวงจรปิดครั้งแรกก็ไม่มา ครั้งที่สองมาพร้อมกับแจ้งว่าจะคิดต่อกลับหาตนตั้งแต่ 3 สัปดาห์ที่แล้วจนป่านนี้ก็ยังไม่ติดต่อมา ถามพนักงานสอบสวนมาว่าจะต้องทำยังไง เท่าที่เคยได้ยินต้องออกหมายจับใช่หรือไม่ พนักงานสอบสวนก็หัวเราะและตอบกลับว่าจะให้ออกหมายจับได้อย่างไรในเมื่อเป็นคดีเด็ก ตนถามกลับว่าหากไม่ทำแบบนี้แล้วจะต้องทำอย่างไร พนักงานสอบสวนตอบว่าขอไปคิดก่อนว่าจะทำอย่างไร คลิปที่ได้มาคือแอบถ่าย ยกมือถือขึ้นมาได้ 3 วิก็โดนคุณครูที่อยู่ในห้องตำหนิว่าถ่ายไม่ได้นะคุณพ่อ ทางผู้บริหารไม่ให้ถ่าย
น้องพอร์ช กล่าวว่าวันเกิดเหตุหลังจากหมดชั่วโมงเรียนว่ายน้ำตนได้ขึ้นมาที่ห้องเพื่อเตรียมเรียนวิชาต่อไปโดยนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนของตนเองที่หลังห้องกับเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน ก็มีเพื่อนชายที่ชื่อนายเอ๋ (นามสมมุติ) เพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน เดินเข้ามาที่ด้านหลังใช้ผ้าขนหนูมาฝาดที่ศรีษะตน 4 ครั้ง จนมึนตนจึงบอกไปว่าอย่ามาทำแบบนี้แต่เขาไม่ยอมหยุดตนจึงลุกขึ้นไปตีเขาเบาๆบอกว่าให้หยุดจากนั้นจึงหันหลังกลับเพื่อจะมานั่งที่โต๊ะเรียน ก็ถูกเพื่อนคนดังกล่าววิ่งเขามากอดจากทางด้านหลังแบบไม่รู้ตัว ก่อนจะเหวี่ยงตนล้มลงไปที่พื้นโดยมีตัวของเพื่อนล้มทับมาที่ขาตอนนั้นปวดขามากไม่รู้ว่าขาหักพยายามจะลุกขึ้นแต่ลุกขึ้นไม่ไหว จนเพื่อนไปตามคุณครูมาดูก่อนพาส่งรพ.และโทรศัพท์ตามพ่อมา ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเล่นหรือสนิทกับเพื่อนที่ทำร้ายเลยแต่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน เพราะเพื่อนคนนี้ชอบรังแกเพื่อนคนอื่นอยู่ตลอดจึงไม่อยากเล่นด้วย
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตามข้อกฎหมายการทำร้ายร่างกายหรือการรับโทษทางอาญา หากอายุไม่ถึง 13 ปี ไม่ต้องรับโทษทางอาญาแต่ในกรณีเด็กอายุ 12 ปี หากขึ้นไปถึงชั้นอัยการจะมีวิธีดำเนินคดีของเด็กและเยาวชน แต่ตามกฎหมายแพ่งพาณิชย์ลูกหลานของเราไปทำให้คนอื่นเสียหาย เด็กอาจจะไม่ได้ตั้งใจแต่เพื่อนของลูกขาหักแล้ว อาจจะเพราะเล่นหรือทะเลาะกัน แต่ตามกฎหมายหากเป็นผู้ปกครองควรจะรับผิดชอบ ส่วนทางโรงเรียนเท่าที่ดูเป็นเวลาที่ยังต้องอยู่ในโรงเรียนแต่เป็นช่วงเวลาย้ายคาบเรียน โดยปกติโรงเรียนเอกชน ค่าเทอมที่นี่ 25,000 บาท ไม่ได้ถูก ต้องมีครูหรืออาจารย์คอยดูแลหรือไม่ ช่วงที่เกิดเรื่องครู อาจารย์อยู่ตรงไหน เป็นเรื่องสำคัญเพราะจะชี้ไปถึงว่าครูที่ดูแลเด็กปล่อยปะละเลยหรือไม่ หากปล่อยปะละเลยโรงเรียนที่เป็นนายจ้างก็ต้องร่วมรับผิดชอบเด็กอยู่ เท่าที่ฟังเด็กอยากไปโรงเรียน ทางโรงเรียนควรจะมีการตอบโต้กลับมาบ้าง เข้าใจว่าเป็นคดีเด็กและเยาวชนแต่วัตถุพยานในคดีส่วนอาญาไม่ว่าคดีจะถูกตัดสินแบบไหนแต่หน้าที่ของตำรวจคือต้องไปเก็บมาและเก็บไว้ในสำนวน หากมีหลักฐานแต่ไม่ส่งมอบให้สามารถดำเนินคดีได้ ฝากถึงตำรวจหากไปเอาหลักฐานมาให้ก็จบ เท่าที่ฟังจากคุณพ่อมา ทำไมหลักฐานยังไม่มา รอมา 2 เดือนแล้ว หากยังไม่มีความคืบหน้าจะให้คุณพ่อพาน้องไปยื่นเรื่องถึงผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไร ทำไมถึงไปเอาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดไม่ได้ เกรงอิทธิพลโรงเรียนหรือไม่กล้าไปเอา หรือคิดว่าไม่มีอำนาจไปเอาวงจรปิดได้ เพราะตอนนี้ยังไม่มีในสำนวน เพราะฉะนั้นทางภาค 1 ต้องรับผิดชอบ
|
โพสเมื่อ :
25 ส.ค. 2566,09:44
อ่าน 111 ครั้ง
|