ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลายแหล่งซุกซ่อนแรงงานเถื่อน

พร้อมยึดเครื่องกระสุนปืนสงครามกว่า 200 นัด ในจังหวัดชลบุรี

 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้

การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ทรงกรด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส, พ.ต.อ.เศรษฐณัณช์ ปิยะสมบูรณ์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.วริษฐ์ ปทุมารักษ์ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกียรติก้อง ทองคำ, พ.ต.ท.พระเนียง พรมมี รอง ผกก.2 บก.ปคม.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กฤษดา จิระวาณิชกุล สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการทำงานของบุคคลต่างด้าว กระทรวงแรงงาน, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร่วมกันจับกุม บุคคลต่างด้าวกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย จำนวน 15 คน ได้แก่ สัญชาติเมียนมา ชาย 10 คน และสัญชาติจีน ชาย 5 คน ฐานความผิด

1. เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา 8 บทกำหนดโทษมาตรา 101

2. รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา 9 บทกำหนดโทษมาตรา 102 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

3. มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียน

ไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง ตามมาตรา 7 บทกำหนดโทษมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490

พร้อมตรวจยึดของกลาง 

1. เครื่องกระสุนปืน ขนาด.22 จำนวน 7 นัด พบอยู่ในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

2. เครื่องกระสุนปืน ขนาด.40 จำนวน 26 นัด พบอยู่ในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

3. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 mm. จำนวน 21 นัด พบอยู่ในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

4. เครื่องกระสุนปืน ขนาด.45 จำนวน 17 นัด พบอยู่ในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

5. เครื่องกระสุนปืน ขนาด.38 จำนวน 1 นัด พบอยู่ในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

6. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.62*39 จำนวน 1 นัด พบอยู่ในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

7. เครื่องกระสุนปืน ขนาด.30-06 จำนวน 1 นัด พบอยู่ในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

8. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56*45 จำนวน 132 นัด พบในครุถังพลาสติกภายในห้องพักของผู้ถูกจับ

สถานที่จับกุม

1. อาคารโรงงานบริษัทแห่งที่ 1 ต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

2. บริษัทแห่งที่ 2 ต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

3. บริษัทแห่งที่ 3 ต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

4. โรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่ง ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามแผนบูรณาการตรวจสถานประกอบการกลุ่มเสี่ยง

เพื่อป้องกันการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ โดยสถานที่เป้าหมายที่ถูกเข้าตรวจค้น เชื่อว่าเป็นสถานที่

สุ่มเสี่ยงต่อการบังคับใช้แรงงานหรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าวกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย จำนวน 15 คน ได้แก่ สัญชาติเมียนมา เป็นชาย 10 คน และชายสัญชาติจีน 5 คน ซึ่งกำลังทำงานอยู่ภายในสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่

ชุดจับกุม จึงขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวคนต่างด้าวโดยสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันแปลภาษา ซึ่งบางราย

ไม่พบเอกสารประจำตัว ประกอบกับจากการตรวจสอบภายในสถานที่ดังกล่าวด้วยความสมัครใจ เจ้าหน้าที่

ชุดจับกุมได้พบเครื่องกระสุนปืนจำนวนกว่า 200 นัด อยู่ในครุถังพลาสติกสีดำตั้งอยู่ภายในสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับพร้อมทั้งแจ้งสิทธิ

ตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบแล้ว โดยผู้ถูกจับมีพฤติการณ์จะหลบหนีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงควบคุมตัว

ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

เตือนภัย นายจ้างที่มีพฤติการณ์ข่มขืนใจให้ลูกจ้างทำงานหรือให้บริการโดยวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

1.ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน

2.ขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ

3.ใช้กำลังประทุษร้าย

4.ยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของบุคคลนั้นไว้

5.นำภาระหนี้ของบุคคลนั้นหรือของบุคคลอื่นมาเป็นสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ

6.กระทำอย่างอื่นใดอันมีลักษณะคล้ายคลึงกับการกระทำดังกล่าวข้างต้น ถ้าได้กระทำให้ผู้อื่นนั้น

อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และอาจเข้าข่ายมีความผิดฐาน ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

จากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ มีโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงสิบสองปีและปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท    

หากประชาชนมีเบาะแสการบังคับแรงงาน หรือได้รับความเดือนร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์โทร สายด่วน 1191 หรือเพจเฟสบุ๊ค กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์

“เป็นมืออาชีพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย คืนคุณค่าความเป็นคน ประชาชนได้พึ่งพา”

 

 

ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.กฤษดา จิระวาณิชกุล สว.กก.2 บก.ปคม. โทร 091-883-2325

 

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน

ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด

ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”