ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบผู้ต้องหาสวมรอยใช้บัตรประชาชนคนอื่นรับทราบข้อหา อ้างกลัวตัวเองมีคดีติดตัว
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่นรอง ผบก.ป.,
ว่าที่ พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ, พ.ต.ท.พงศกร ต้นอารีย์, พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา, พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช รอง ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.รชา มากมณี สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.เตมีย์ นาคะวิสุทธิ์ รอง สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.เดชศักดิ์ดา มาศิริ รอง สว.(ป) กก.2 บก.ป., ด.ต.วัฒนา หนูน้อย, ด.ต.ภัสวุฒิ งามดี, จ.ส.ต.ต่อพงศ์ โตวังจร ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายชัญญกัลย์ฯ หรือ สุกฤษฎ์ฯ อายุ 45 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3901/2568 ลง 3 ก.ค.68 โดยกล่าวหาว่า “นำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นไปใช้หรือแสดงตนเป็นเจ้าของบัตร
โดยมิชอบ, แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้พนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน”
สถานที่จับกุม หน้าบ้านพักภายใน ซ.รามคำแหง 76 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้รับแจ้งจากบริษัทฯ ที่ตนไปสมัครงาน ว่า พบประวัติอาชญากรรมของผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายกำลังจะไปเริ่มทำงานกับบริษัทฯ ดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายไม่เคยกระทำความผิดอาญาใดๆ มาก่อน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบประวัติอาชญากรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติด้วยลายนิ้วมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่พบประวัติแต่อย่างใด ซึ่งต่อมา ผู้เสียหายได้สืบทราบว่า มีบุคคลที่แอบอ้างชื่อสกุลของผู้เสียหาย มาก่อเหตุ ที่ สน.โคกคราม ซึ่งตรวจสอบพบข้อเท็จจริงว่า
เมื่อประมาณวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม บุคคลหนึ่งมาโดยมีการใช้ชื่อสกุลของผู้เสียหาย พร้อมด้วยของกลางเป็นแชมพูสระผมมูลค่า 99 บาท ส่งพนักงานสอบสวนในคดีนั้น และได้นำตัวบุคคลดังกล่าว ที่แอบอ้างชื่อและนามสกุล ผู้เสียหาย ส่งพนักงานอัยการ ยื่นฟ้องต่อศาล โดยศาลได้มี
คำพิพากษา ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา
ซึ่งต่อมาผู้เสียหาย ยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ พนักงานสอบสวนจึงได้พิมพ์ลายนิ้วมือไปตรวจสอบประวัติการต้องโทษกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลการตรวจประวัติของผู้เสียหายว่าไม่พบการกระทำผิด จากพฤติการณ์พบบุคคลที่ใช้ชื่อและสกุลของผู้เสียหาย
มากระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น โดยใช้บัตรประชาชนของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายเคยทำตกหาย 2 ครั้ง
เมื่อประมาณปี 2562 และปี 2564 มาใช้ก่อเหตุดังกล่าว โดยในข้อเท็จจริงดังกล่าว ผู้เสียหายไม่เกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างไร การกระทำของบุคคลดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ผู้เสียหายจึงเข้าร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้าง ชื่อและนามสกุลของ ผู้เสียหายในคดีนี้ จนถึงที่สุดต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่าบุคคลดังกล่าวข้างต้นที่แอบอ้างชื่อผู้เสียหายคือนายชัญญกัลย์ฯ หรือ สุกฤษฎ์ฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไว้
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับ 2 กองบังคับการปราบปราม สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งภายในซอยรามคำแหง 76 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จึงได้วางแผนเข้าจับกุม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2564 ตนได้ลักแชมพูสระผมออกมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จากนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์” โดยขณะนั้น ตนตกใจกลัวและไม่ทราบว่าต้องทำตัวอย่างไร กลัวมีคดีติดตัว
จึงได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียหาย ซึ่งตนเก็บไว้ ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะนั้น จนกระบวนการดังกล่าวถึงการพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุก
รอลงอาญา จนเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านพ้นมาจนถึงปัจจุบัน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย การนำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นไปใช้แสดงตนว่า
เป็นเจ้าของบัตร มีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 ดังนั้นหากบุคคลใดพบเห็นบัตรประชาชนของผู้อื่นตกหรือหล่นอยู่ที่ใด หากเก็บได้ให้นำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดต่อคืนให้กับบุคคลเจ้าของบัตรประจำตัวประชาชน
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ร.ต.อ.เตมีย์ นาคะวิสุทธิ์ รอง สว.กก.2 บก.ป. โทร.061-6639589
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
|