เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบร้านขายก๋วยเตี๋ยวรถเข็น "ฮ่องเต้บะหมี่เกี๊ยว" หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังพบว่าเจ้าของร้านภรรยา-ลูกสาว-ลูกจ้าง ทุกคนใส่ทองรูปพรรณเต็มตัวเหลืองอร่าม โดยเฉพาะตัวเจ้าของร้านเองนั้น ใครผ่านไปมาเป็นต้องสะดุดตาอย่างมาก เนื่องจากที่คอใส่สร้อยทองรูปพรรณเหลืองอร่ามเส้นโต เท่าโซ่ถึง 3 เส้น ส่วนที่ข้อมือก็ใส่สร้อยทองรูปพรรณเส้นใหญ่ถึง 2 เส้น รวมๆกันแล้วหนักเกือบ 30 บาท จนแทบจะหวั่นว่าเป็นที่สะดุดตาของมิจฉาชีพหรือเปล่า

  นายรังสรรค์ หรือเค้ก สุวรรณศร อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นคนที่นิยมชมชอบซื้อทองเก็บไว้สะสมส่วนตัวโดยจะสะสมทุกๆเดือนๆละ 1 บาท 2 บาทบ้าง ทำแบบนี้มานานกว่า 6 ปีแล้ว มีมากมีน้อยจะซื้อเก็บ เพราะเป็นความชอบส่วนตัว ไม่ได้ใส่อวดหรือโชว์ให้ใคร ถึงแม้ตอนนี้ราคาทองคำจะแพงมากตนก็ไม่ได้หวั่นกลัวคนร้ายเพราะตนก็มีวิธีป้องกันของตนเองเหมือนกันนอกจากตนจะใส่ทองที่สะสมทุกเดือนแล้วตนยังซื้อทองให้ภรรยา-ลูกสาว และลูกจ้าง รวมๆกันแล้วกว่า 50 บาท 

   ตนคิดว่าเก็บเงินเดี๋ยวก็หมดเก็บเป็นทองดีกว่า ตอนนี้ตน ลืมตาอ้าปากได้แล้ว ตนก็จะติดป้ายที่หน้าร้านว่า "คนพิการ ทุพพลภาพ คนไร้ที่พึ่ง กินฟรีไม่มีจำกัด" อดีตตนเคยลำบากมาก่อน เมื่อมีก็ต้องแบ่งปัน บางครั้งคนขับรถเก็บขยะ ตนก็กวักมือเรียกให้มารับก๋วยเตี๋ยวไปทาน บางทีคนขี่แก๊ปซ้อนท้ายภรรยาท่าทางเหน็ดเหนื่อยเพราะเขา ขี่รถทั้งวัน ตนก็ไม่เก็บตังค์ ให้กินฟรีไปเลย ทุกวันนี้ตนถือคติในการดำรงชีวิตที่ว่า " มีแล้วอย่าฮึกเหิม รู้จักแบ่งปันคิดดีทำดีได้ดี เดี๋ยวอะไรดีๆก็ตามมาเองยิ่งให้ยิ่งได้ "  

  ขณะที่ นางสาววรรญา มีกิจเจริญโรจน์ อายุ 54 ปี ภรรยาของนายรังสรรค์ เผยด้วยความเหนียมอายว่า ค้าขายตรงนี้มานานกว่า 30 ปี ขายตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสี่ทุ่ม ภูมิใจในตัวสามีคนนี้มาก เพราะเขาเป็นคนที่รู้จักแบ่งปันมีความเมตตา เมื่อเจอคนพิการหรือคนยากจนไร้ที่พึ่งเข้ามาที่ร้านก็จะบอกให้ตนเองทำก๋วยเตี๋ยวใส่ห่อนำกลับไปบ้านเผื่อแผ่ครอบครัวทุกราย สามีเป็นคนชอบสะสมทองทุกเดือนจะซื้อให้ตนกับลูกๆ และลูกจ้างเป็นน้ำใจต่อเนื่องเสมอมา โดยให้เก็บสะสมทีละเล็กทีละน้อย ส่วนตัวก็เป็นห่วงเหมือนกัน แต่เราอยู่ที่นี่มานานชาวบ้านแถวนี้รักใคร่ทุกคนอีกทั้งบ้านตนก็อยู่ในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาจึงเจอแต่เรื่องดีๆ เพราะเราทำแต่ความดี สามีมีเมตตาตั้งใจทำมาหากินถือเป็นความภูมิใจของครอบครัว