ข่าวภูมิภาค
เปิดใจพ่อเด็ก 13 ปี เผยลูกถูกหลอกผีแล้วฉุดเข้าที่มืด ขณะมือยิงเตรียมเข้าพบตำรวจ
นนทบุรี คืบหน้า เปิดใจพ่อเด็ก 13 ปี เผยลูกถูกหลอกผีแล้วฉุดเข้าที่มืด ขณะมือยิงเตรียมเข้าพบตำรวจ
 
จากกรณีเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 19 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกับกลุ่มคนเมาไล่ฟันและยิงกันประมาณ 7 นัด สาเหตุมาจากการเจรจากันไม่ลงตัว เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจที่ ด.ญ.อภิสรา ถูกกลุ่มคนเมาหลอกผีจนล้ม ทำให้โทรศัพท์ที่พกมาด้วยหน้าจอแตก จนเกิดเหตุดังกล่าวเหตุเกิดบริเวณ ตึกเอื้ออาทรวัดกู้ 2 ระหว่างตึก 84-85
 
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว พบนายเล็ก อายุ 41 ปี ที่ถูกกล่าวอ้างหลอกผีเด็ก จากการสอบถามนายเล็ก กล่าวว่า เมื่อคืนตอนเกิดเหตุมีเพื่อนของตนหรือนายลี่ ทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นฝั่งตรงข้าม น้องจึงตะโกนเข้ามาเรียกให้ตนช่วย ตนจึงวิ่งเข้าไปช่วยห้าม แต่ตนไม่ทราบว่าเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเก่า ซึ่งตอนตนเข้าไปช่วยก็มีคนเข้ามาห้ามว่าตนอย่าไปยุ่ง แต่ตนสงสารน้อง เพราะเขาตีกันหนักแล้ว และมีรถจยย.ขี่ตามมาอีก 2-3 คัน เข้ามาปาระเบิดและยิงปืน ซึ่งทำให้ตนโดนลูกหลงจากกระสุนปืนเฉี่ยวถากๆที่ซี่โครงข้างขวา และโดนเศษแก้วบาดที่เท้าซ้าย ส่วนขวดแก้ว ฝั่งตนเป็นคนขว้างปาไป ตนถือลังเบียร์ไปทั้งหมด 3 ลัง มีแต่ขวดเปล่า ตนไม่รู้ว่าเขามีปืน ฝั่งเขามี 7-8 คน ฝั่งตนมี 3-4 คน ตนพยายามห้ามแล้ว แต่ก็ห้ามไม่ได้ ส่วนเรื่องการที่ไปแกล้งลูกเขาตนไม่ทราบเพราะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และตนเป็นคนนอก เพียงแค่มานั่งกินเหล้าตามปกติทุกวัน เมาทุกวันอยู่แล้ว และไม่เคยมีเรื่องกับคนอื่น ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกผี ซึ่งตนโตแล้วไม่ใช่คนบ้าที่จะไปแกล้งเด็ก และตนไม่ได้เป็นคนทำ ตนไม่ทราบเรื่องนี้ ตนแค่นั่งกินเหล้าทุกวันเป็นขี้เมา เมาปกติ ไม่เคยแกล้งใคร และใครแกล้งตนก็ไม่รู้ ตนไม่เคยไปยุ่งกับใครแต่เมื่อคืนตนเข้าไปเพื่อที่จะช่วยน้อง
 
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่นายศักดิ์ณรงค์ แก้วประสิทธิ์ หรือ นายเบส อายุ 32 ปี พ่อของ ด.ญ.อภิสรา แก้วประสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์เนื่องจากนายเบส ได้รับบาดเจ็บหลายจุด จึงต้องเข้าผ่าตัดในเวลา 10.00น. ที่โรงพยาบาล
 
จากการสอบถามนายศักดิ์ณรงค์ แก้วประสิทธิ์ หรือ นายเบส เล่าว่า คนที่มาฟันตนมีมีดยาวประมาณ 1 เมตร มาฉุดลูกสาว ตนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ลักษณะเหมือนช่างแอร์นั่งกินเหล้ากันทุกวัน ก่อนเกิดเหตุลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวคนโตกับเพื่อนเดินนำหน้าลูกสาวคนเล็กเดินตาม คนที่ก่อเหตุโผล่มาจากมุมมืดแล้วแฮ่หลอกผี ลูกสาววิ่งไปแล้วหกล้ม คนก่อเหตุพยายามดึงลูกของตน ดึงเข้าไปในที่มืดซึ่งตนไม่รู้ว่าดึงไปทำไม จะข่มขืนหรือไม่ตนบอกไม่ได้ มุมนั้นเป็นที่อับ ระหว่างคนเมากับที่มืดตนคิดไม่ดีไว้ก่อน ตอนนี้น้องมีรอยถลอกและเจ็บที่แขนทั้งสองข้าง ก่อนมีเรื่องตอนขับรถไปคนเดียว ตอนที่เพื่อนมาตอนหลังตนโดนทำร้ายไปแล้วเพื่อนตนไม่มีอาวุธ เลยหยิบขวดมาปาสวนกลับ ก่อนหน้านี้ตนได้สอบถามเขาว่ามาทำลูกทำไม เขาตวาดกลับมาว่าไม่ได้ทำ เลยมีปากเสียงกันตามคลิป ตนโดนฟันที่หัวก่อน แต่หลบทันเอามือรับมีดไว้ได้ โดนที่มือและหน้าอก ตนล้มลงแล้วโดนฟันอีก ที่หัวเข่ากระดูก เข่าแตก ตนมาช่วยลูกแต่ต้องมาโดนแบบนี้ ตนมั่นใจว่าตนไม่ผิดเพราะตนมีคลิป และมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ ส่วนปืนที่ยิงมีคนขับรถมาคนเดียวแล้วเอาปืนมายิงเพื่อห้ามปรามซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่เขายิงเพราะจะโดนมีดฟัน ถ้าเขาไม่ยิงก็คงไม่หยุดฟัน ฟันมั่วไปหมดใครด่าอะไรก็วิ่งจะวิ่งไปฟันเขา มีป้าคนนึงถูกฟันแต่ไม่เข้า
 
จากการสอบถามพ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รองผกก.สส. สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากฝ่ายกลุ่มคนเมาคือนายลี่ หัวโจกในกลุ่ม ทำทีเป็นผีหลอกเด็กหญิงวัย 13 ปี จนตกใจหกล้มโทรศัพท์หน้าจอแตก จึงโทรตามพ่อให้มาเคลียร์กับนายลี่ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายที่ทำโทรศัพท์ของลูกสาวแตก แต่ปรากฏว่าทั้ง 2 ฝั่ง เคลียร์กันไม่ลงตัว เกิดปากเสียงทะเลาะกัน พ่อของเด็กหญิงวัย 13 ปี จึงโทรตามเพื่อนมาอีก 3 คนให้มาช่วย นายลี่เห็นดังนั้นนั้น จึงเอามีดที่พกไว้มาไล่ฟันทำร้ายพ่อของเด็กหญิงวัย 13 ปี กับเพื่อนจนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้น 6 -7 นัด ทำให้ทั้ง 2 ฝั่ง แตกกระเจิงวิ่งหลบหนี ตามที่ชาวบ้านถ่ายคลิปไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสืบสวนทราบตัวตัวคนที่ยิงปืนแล้ว เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาล ซึ่งติดต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วและอ้างว่าคืนเกิดเหตุต้องการยิงปืนเพื่อสกัดให้ทั้ง 2 ฝ่ายแยกย้ายกันหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องสอบปากคำให้แน่ชัดเสียก่อน ว่าคนยิงอยู่ฝ่ายไหนกันแน่ และยิงเพื่อ ให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย แยกย้ายกันหนีจริงหรือไม่ตามที่แอบอ้าง โดยทางคนยิงปืนรายนี้ได้ติดต่อเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วงบ่าย ส่วนคนก่อเหตุคือนายลี่ก็ได้รับบาดเจ็บ และติดต่อจะมาให้ปากคำ เช่นเดียวกันในวันนี้ช่วงเย็น
โพสเมื่อ : 21 ก.ค. 2566,13:10   อ่าน 69 ครั้ง