เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2566 จากกรณีโลกออนไลน์ มีการแชร์เรื่องราวของ "ป้าต้อย” หรือ “นาย สมชาย ยุ่นสุ่น” อายุ 65 ปี" ซึ่งมีลักษณะกระตุ้งกระติ้ง แต่งตัว ในแต่ละวันดูขำขัน อารมณ์ดี ปะแป้งขาวเต็มหน้า บางวันก็สวมมงกุฎชฎา เข็นรถเข็นขายขนมใส่ไส้ จนเป็นที่ฮือฮารู้จักกันดีของชาวนนทบุรี เรียกติดปากกันว่า "ป้าต้อย ขนมใส่ไส้" มีลูกค้าผ่านไปมาแถวท่าน้ำหอนาฬิกาเมืนนทบุรี ต่างพากันอุดหนุน ช่วยกันซื้อขนมใส่ไส้ป้าต้อยด้วยความสงสาร ตั้งใจทำมากินไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว 

  และยังเป็นคนที่รู้จักทำมาหากิน ไม่ขอใครกิน ไม่เบียดเบียนใคร และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ป้าต้อยเป็นคนที่ขยันทำมาหากินไม่เคยมีวันหยุด ไม่ว่าฝนจะตก อากาศจะร้อนขนาดไหน ป้าต้อยก็ไม่สนใจ เธอจะตั้งหน้าตั้งตาขายขนมท่าเดียว ยกเว้นแต่ว่าวันไหนที่คนทำขนมใส่ไส้หยุด หรือเธอต้องไปร่วมงานบุญสำคัญ ๆ เธอถึงจะยอมหยุด..."

  ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป้าต้อยหรือนายสมชาย ยุ่นสุ่น ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถจยย.พุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 66 ขณะเข็นรถคู่ใจขายขนมไส่ใส้ เวลาประมาณ 22.30 น. บริเวณหน้าร้านอาหาร "ลงขัน" ถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำตตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ก่อนนอนพักรักษาตัวแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเวลาประมาณ 02.45 น.พ่อค้าแม่ค้าชาวนนทบุรีต่างพากันโศกเศร้าเสียใจ 

  ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่

  วัดนครอินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เข้าพบพระครูวินัยธร เจริญทนฺตจิตฺโต,ดร.เจ้าอาวาสวัดนครอินทร์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมเวลา ประมาณ0.9.30 น.ป้าต้อยได้เข้ามาที่วัดบอกว่าเข้ามาซ้อมลำเพื่อถวายให้เป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อซึ่งวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อตรงกับวันที่ 6 สิงหาคมที่จะถึงหลวงพอจะทำบุญในช่วงเช้าซึ่งหลวงพ่อก็ได้เปิดเพลงตนตรีไทยให้ป้าต้อยซ้อมลำป้าต้อยก็นำหัวม้ามาใส่แล้วลำให้หลวงพ่อดูพักใหญ่ป้าต้อยได้บอกกับหลวงพ่อว่าไปแล้วนะๆๆๆหลายๆครังซึ่งหลวงพ่อก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วป้าต้อยก็เดินออกจากกุฎิหลวงพ่อไปพอมารู้อีกทีช่วงเช้าของวันที่ 5 ป้าต้อยได้เสียชีวิตไปแล้วจากเหตุการรถชนซึ่งก็เป็นอะไรที่คาดคิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ซึ่งก่อนหน้านี้บางวันป้าต้อยจะมานอนพักที่ศาลาวัดแล้วก็ออกไปทำมาหากินในแต่ละวัน

และช่วงเช้าที่ผ่านมาทางญาติของป้าต้อยได้เข้ามาติดต่อกับทางวัดว่าจะนำศพของป้าต้อยมาสวดทำพิธีทางศาสนาที่วัดซึ่งทางวัดก็ได้เตรียมศาลาเอาไว้ให้เป็นศาลา 2 ศพน่าจะมาถึงช่วงบ่ายเพนาะช่วงเช้าหลวงพ่อจะทำบุญวันคล้ายวันเกิด พอญาติโยมหรือประชาชนพอรู้ว่าป้าต้อยเสียชีวิตก็ได้โทรเข้ามาหาหลวงพ่อหลาบสายเพื่อขอร่วมทำบุญเพราะป้าต้อยเป็นคนชอบทำบุญเวลาว่าป้าต้อยจะไปช่วยทำบุญวัดโน้นวัดนี้หลายวัดที่ไปที่วัดนครอินทร์ป้าต้อยก็เข้ามาทุกวันช่วยทำทุกอย่างซึ่งทางวัดก็พร้อมที่จะช่วยเรื่องงานศพของป้าต้อยและหลวงพ่อได้บอกกับทางญาติป้าต้อยไปว่าถ้าข้าดเหลืออะไรก็ขอให้บอกทางวัดจะจัดให้ซึ่งทางญาติก็หนักใจเรืองผู้ใจบุญที่เข้ามาตั้งตู้รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเกรงว่าจะไม่ดีซึ่งหลวงพี่ก็ให้ทางญาติเข้ามาดูแลและหากรรมการเข้ามาช่วยเหลือเพื่อความโปร่งใส