นนทบุรี ต่อข่าว ญาติประสานสัปเหร่อเชิญดวงวิญญาณ ขณะผู้เห็นเหตุการณ์เผยรัวยิงระยะไม่ถึง 1 เมตร
จากกรณีเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 ส.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางกรวยได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบริเวณภายในซอยอัจฉริยะประสิทธิ์ ตำบลบางขุนกองอำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยแพทย์จะสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ป่อเต็กตึ้งรีบตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนทางเท้าทางเข้าวัดหูช้างพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางวิไลบุญรอดอายุ 45 ปี (หลานสะใภ้ผู้ก่อเหตุ) นอนจมกองเลือดเสียชีวิตสภาพศพถูกอาวุธปืนยิงที่บริเวณศีรษะ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ 1 นายณรงค์บุญรอด อายุ 75 ปี (พ่อของนายเอกรินทร์) ถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณ หลังมือและหัวไหล่ซ้าย ส่วนผู้บาดเจ็บ อีก 1 ราย ทราบชื่อคือนายเอกรินทร์ บุญรอด หรือบี อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นหลานของผู้ก่อเหตุ (สารวัตรกำนันตำบลบางขุนกอง) ถูกยิงที่ไหล่ซ้าย จำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบางกรวย ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายหวาน นาคแกมทอง อายุ 83 ปี (ลุงของนายเอกรินทร์) หลังเกิดเหตุได้ถืออาวุธปืนเดินเข้าไปในบ้าน เลขที่32/3 หมู่ 6 ตำบลบางขุนกองซึ่งเป็นบ้านของตัวเอง เพื่อรอ มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาทางกำนันตำบลมหาสวัสดิ์ได้เข้าเกลี้ยกล่อมก่อนจะมอบเอาอาวุธปืนและยอมเข้ามอบตัว
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 7 ส.ค.66 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย พ.ต.ท.ธวัชชัย จงยิ่งเจริญ รองผกก.ป.สภ.บางกรวย พ.ต.ต.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ สว.(สอบสวน)สภ.บางกรวยพร้อมทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รุดตรวจสอบ พร้อมทำพิธีจุดธูปเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตก่อนนำศพส่งชันสูตรต่อที่สถาบันนืติวิทยาศาสตร์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนทางเท้าทางเข้าวัดหูช้าง พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนางวิไลบุญรอดอายุ 45 ปี (หลานสะใภ้ผู้ก่อเหตุ) นอนเสียชีวิตสภาพศพนอนคว่ำจมกองเลือด พบบาดแผลถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่โหนกแก้มขวา 1 นัด ก่อนตำรวจจะเข้าตรวจค้นภายในบ้านผู้ก่อเหตุพบปลอกกระสุนปืนจำนวน 6 ปลอก อยู่ภายในห้องนอน
สอบถามนายดั๊ว ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ตนเห็นรถบรรทุกดิน 6 ล้อมา จอดบริเวณที่เกิดเหตุจากนั้นนายหวานผู้ก่อเหตุได้มีปากเสียงกับนายตี๋คนเจ็บ ก่อนนายได้ยินเสียงคนพูดว่า " ไม่ไหวแล้ว" ซึ่งตอนแรกตนคิดว่าผู้ก่อเหตุกับคนเจ็บมีปากเสียงกับรถบรรทุกดิน 6 ล้อ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นตนกลัวมากจึงรีบวิ่งเข้าบ้านจำไม่ได้แม้กระทั่งเสียงปืนที่ผู้ก่อเหตุยิง
ทางด้านนายเอ(นามสมมุติ) เสื้อขาว ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนขี่าจยย.มาที่เกิดเหตุแล้วจอดรถจยย.ต่อท้ายรถบรรทุกดิน 6 ล้อ จากนั้นตนก็เห็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนรัวยิงหลายนัด ขณะที่คนเจ็บและคนตายยืนอยู่บริเวณข้างถนนปากทางเข้าซอยวัดหูช้าง ซึ่งระยะในการยิงตนเห็นกระบอกปืนห่างจากผู้ก่อเหตุไม่ถึง 1 เมตร ซึ่งใกล้มากๆ
นายสุเทพ ต่ายจันทร์ กำนันตำบลมหาสวัสดิ์ กล่าวว่า ผู้ตายมีคดีความกับทางอบต.ได้ทำรั้วออกมาทางอบต. ไม่ยอม เนื่องจาก ทางอบต . จะทำทางเข้าวัดหูช้าง เลยมีการฟ้องร้องกัน แต่ ทางผู้ก่อเหตุแพ้จึงต้องทุบรั้วเลื่อนหลบเข้าไปเหลือเนื้อที่แค่นิดหน่อย ทางอบต.ได้มาทำถนนใหม่เป็นทางเข้าวัด ตอนนี้บ้านผู้เสียชีวิต ถมดินถมหินเพื่อจะกลบเพราะตรงนั้นน้ำท่วมเป็นประจำ ส่วนผู้ก่อเหตุบอกว่าไม่อยากให้ รถถมดินเข้าเนื่องจากบ้านจะร้าว เกิดมีปากเสียงกันมาหลายรอบเมื่อช่วงเย็นประมาณ 1700 น.รถ 6 ล้อนำดินมาทิ้ง ผู้ก่อเหตุเลยเดินมา คู่กรณีเดินโบกรถอยู่เกิดมีการโต้เถียงกันทำให้ทางผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจุด 38 ที่พกมาชักออกมายิงทำให้มีผู้เสียชีวิต1รายและได้รับบาดเจ็บกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาล ตนได้เข้าไป เกลี้ยกล่อม ทางผู้ก่อเหตุให้มอบตัวตอนนั้นยังถืออาวุธปืน ผู้ก่อเหตุบอกกับตนว่าที่ชักอาวุธปืนยิงเนื่องจากฝั่งผู้เสียชีวิตถือมีดแต่ตนไม่เห็น เลยตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงคนแรก 2 นัด ยิงคนที่สอง 2 นัด ยิงคนที่สามเสียชีวิต ปืนฉแลบไปโดนมือชาวต่างด้าว1นัด
|