 |
ข่าวภูมิภาค |
 |
ร้องสื่อ สาวสุดทนถูกแฟนหนุ่มทุบตีนานกว่า4ปี ซ้ำญาติแฟนทำร้ายร่างกายจนเปลือกตาฉีก ท่อน้ำตาขาด ต้องหนีไปอยู่กับญาติ หวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย
นนทบุรี ร้องสื่อ สาวสุดทนถูกแฟนหนุ่มทุบตีนานกว่า4ปี ซ้ำญาติแฟนทำร้ายร่างกายจนเปลือกตาฉีก ท่อน้ำตาขาด ต้องหนีไปอยู่กับญาติ หวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย
วันที่ 27 ธ.ค.2566 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 50/1 ม.2 ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมกับ ดร.ธนกฤต จิตต์อารีรัตน์ ผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย น.ส.ญาดารัตน์ แสงสว่าง และ น.ส.สุภานันท์ แจ่มศรี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนนทบุรี จากกรณีที่ น.ส.ศศิกานต์ หรือมายด์ รัตมีแก้ว อายุ 22 ปี ถูก นาย มนไท เทศงามถ้วน ชื่อเล่นทาโร่ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ทำร้ายร่างกายทั้งบีบคอ ทุบตี นานกว่า 4 ปี ทนไม่ไหวขอหย่าแต่ฝ่ายชายไม่ยอมหย่า อ้างฝ่ายหญิงไม่ยอมให้เจอลูก ซ้ำวันที่นัดไปหย่าที่อำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี ถูกญาติสามี 3-4 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ หนึ่งในนั้นใช้มือจิกบริเวณเปลือกตาจนทำให้เปลือกตาฉีดขาด ท่อน้ำตาฉีกและรอยฟกช้ำตามร่างกายอีกหลายจุด
ดร.ธนกฤต จิตต์อารีรัตน์ ผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายซึ่งไปร้องที่เพจของคุณ กัน จอมพลัง เรื่องของการทำร้ายร่างกายและได้มีการส่งภาพมาให้ดู จากที่ดูบาดแผลค่อนข้างสาหัสเพราะใกล้บริเวณดวงตา ตนเองเห็นว่าเรื่องแบบนี้ไม่สามารถรอได้ จึงเร่งดำเนินการจัดตั้งทีมศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์รัฐบาล ประสานมายังตำรวจในพื้นที่ และที่ยุติธรรมจังหวัดนนทบุรี เข้ามาช่วยเหลือโดยทันที ลงพื้นที่มาพูดคุยกับทางผู้เสียหาย ทำให้พอทราบเรื่องราวทั้งหมด โดยตนเองขอยืนยันว่าแม้ว่าจะเป็นสามีภรรยากันก็ไม่สามารถก่อเหตุทำร้ายร่างกายหรือข่มขืนได้ โดยต่อจากนี้ตนเองจะประสานขอให้ทางยุติธรรมจังหวัดเข้ามาดำเนินการจัดชุดคุ้มครองพยาน และประสานเป็นตัวกลางในการทำเรื่องหย่า หากฝ่ายชายยังไม่ยินยอมก็ให้จัดหาทนายความมาดำเนินการฟ้องหย่า รวมไปถึงเรื่องของการเยียวยาขอรับเงินช่วยเหลือจากทางกระทรวงยุติธรรม ส่วนในเรื่องความปลอดภัยนั้น จะประสานขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ไทรน้อยเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยในบ้านครอบครัวของผู้เสียหาย เนื่องจากเกรงว่าฝ่ายชายอาจจะเดินทางมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายหรือก่อกวน
น.ส.ศศิกานต์ หรือมายด์ (ปิดตาข้างซ้าย) กล่าวว่า ตนเองคบหากับอดีตสามีคนนี้มา4ปี แล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ 3 เดือน ที่ผ่านมาถูกอดีตสามีคนนี้ทำร้ายอยู่เป็นประจำ สามีเป็นคนอารมณ์ร้อนและควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาโมโห เรื่องทะเลาะกันส่วนมากจะเป็นเรื่องของการหึงหวงหาว่าตนเองมีคนอื่น ซึ่งความจริงตนเองไม่เคยมีใคร เพราะอยู่บ้านเลี้ยงลูกเพียงลำพังมาโดยตลอด และทุกครั้งที่มีการทำร้ายร่างกายตนเองจะถูกบีบคออยู่เป็นประจำ และจะเรียกให้ญาติพี่น้องมารุมทำร้ายร่างกายตนเองด้วย ตนเองจึงทนไม่ไหวตัดสินใจแยกทางกับอดีตสามีโดยการกลับมาอยู่กับบ้านญาติได้เป็นระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือน ก่อนจะมีการนัดวันหย่าที่อำเภอบางบัวทอง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา เมื่อถึงวันนัดหมายตนเองก็เดินทางไปพร้อมกับครอบครัวอีก 2 คน เมื่อเจอกับทางอดีตสามีที่เดินทางมาพร้อมกับญาติ รวม 4 คน มาที่อำเภอแต่เมื่อเห็นว่าตนเองไม่ได้นำลูกสาวไปด้วยเพราะเกรงว่าฝ่ายชายจะพาลูกสาวตนเองไป ทางฝั่งอดีตสามีก็เริ่มไม่พอใจและมีการบ่ายเบี่ยงว่าจะไม่ยอมหย่าให้ จนเริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันที่หน้าอำเภอ จนทำให้ฝ่ายชายมีการเดินเข้ามาทำร้ายร่างกาย น.ส.ศิริขวัญ หรือป้าโย ซึ่งเป็นป้าของตนเอง ตนจึงเข้าไปห้ามจนเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น ซึ่งขณะเกิดเหตุทางญาติพี่น้องของฝ่ายชายได้เข้ามาร่วมทำร้ายร่างกายตนเองและครอบครัว ส่วนของตัวเองก็ถูกกลุ่มญาติพี่น้องของอดีตสามีรุมทำร้ายด้วยการใช้มือจิกเข้าบริเวณเบ้าตาด้านซ้าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บเปลือกตาฉีกขาดและท่อต่อมน้ำตาแตก ทำให้ยังคงต้องรอดูอาการต่อไปก่อน ซึ่งในวันเกิดเหตุยุตติลงโดยการที่มีเจ้าที่ของอำเภอเข้ามาช่วยห้ามแยกย้ายทั้งสองฝั่งออก
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ยอมรับว่าหวาดกลัวว่าฝ่ายชายจะเดินทางมาทำร้ายร่างกายหรือมาเอาตัวลูกสาวไป จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือที่ กัน จอมพลัง เพื่อขอให้เข้ามาช่วยเหลือตนเอง ซึ่งตนเองก็อยากให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีจับกุมอดีตสามีคนนี้ในข้อหาทำร้ายร่างกายให้ถึงที่สุด เพราะก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุได้มีการเข้าไปแจ้งความแต่ตำรวจท้องที่กลับแจ้งว่าให้ไกล่เกลี่ยกันกับทางฝ่ายสามี ตนเองไม่อยากไกล่เกลี่ยจึงอยากขอให้มีการดำเนินการทางคดีไปให้ถึงที่สุด เรื่องของการหย่าร้าง ก็อยากให้มีคนกลางเข้ามาช่วยดำเนินการให้ทางฝั่งอดีตสามียินยอมเซ็นใบหย่า จะได้จบๆกันไปซะที เนื่องจากว่าช่วงที่แยกทางกับอดีตสามี เคยบุกมาที่หน้าบ้านของตนเองและมีการด่าทอคนในครอบครัว และมีการพยายามจะเอาลูกสาวไป
น.ส.ศิริชวัญ หรือป้าโย รัสมีแก้ว (สวมเสื้อสีแดง) เล่าว่า หลานสาวตนเวลามีเรื่องกับอดีตสามีคนนี้เขาไม่ค่อยบอกเพราะกลัวว่าที่บ้านจะเป็นห่วง เขาทะเลาะกันบ่อย และล่าสุดคือหลานทนไม่ไหวแล้ว จึงขอหย่าและนัดวันหย่ากันวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ทางอดีตสามีไม่ยอมหย่าให้อ้างว่า หลานของตนไม่ยอมพาลูกมาเจอที่อำเภอบางบัวทอง หลังจากนั้นก็มีปากเสียงกันซึ่งทางฝั่งอดีตสามีได้ด่าตนก่อน หลังจากนั้นก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็โดนหลานเขยเข้ามาล็อคแขนจากด้านหลัง ตอนนั้นก็เห็น น.ส. สุปรียา ซึ่งเป็นพี่สาวของอดีตสามีของหลานใช้มือจิกเข้าไปที่หน้าตอนนั้นไม่รู้ว่าโดนตา พอแยกกันก็ตกใจคิดว่าหลานตาบอดแล้วเพราะเลือดไหลเยอะมาก
ด้าน พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ระบุว่าเบื้องต้นในคดีนี้ตำรวจให้ความเป็นธรรมตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ทราบว่าฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อนำมาใช้ประกอบการดำเนินคดี ทำร้ายร่างกาย ยืนยันว่าคดีการทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ไม่สามารถยอมความได้ และถึงแม้ว่าจะเป็นสามีก็ไม่สามารถทำร้ายร่างกายแบบนี้ได้ ซึ่งเรื่องเพิ่งเกิดมาเพียงห้าวันคาดว่าสามารถดำเนินการหากล้องวงจรปิดได้ ส่วนเรื่องผลการตรวจร่างกายต้องรอให้ทางโรงพยาบาลส่งกลับมาที่พนักงานสอบสวนก่อนซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 30-40วัน ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเรียกสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง โดยในวันนี้จะมีการเรียกสอบ อดีตสามีรายนี้
|
โพสเมื่อ :
28 ธ.ค. 2566,16:46
อ่าน 30 ครั้ง
|