จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ ศูนย์ข่าวเขื่อนขันธ์ ได้โพสต์คลิปมีการทะเลาะวิวาท์บนเรือเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งจากกู้ชีพปราการ ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธมีดทำร้ายหลายรายและกระโดดหนีลงแม่น้ำเจ้าพระยา จากเรือขนสินค้าขนาดใหญ่ ของประเทศเวียดนาม ความสูงจากหัวเรือถึงพื้นน้ำประมาณ 30 เมตร รวมหลบหนี ทั้งหมดเป็นชาย 15 คน แยกเป็นคนไทย 5 คน กัมพูชา 10 คน แต่สามารถหลบหนีขึ้นชายฝั่งได้เพียง 14 คน ส่วนอีก 1 คนสูญหายภายในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นคนไทย ทราบชื่อคือนายประกรณ์ แก้วปู่ อายุ 48 ปี ตำแหน่งโฟร์แมน จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมชุดประดาน้ำจากสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางคอแหลม รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณ ท่าน้ำวัดบางกอบัว ตำบลบางกอบัว อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จุดเกิดเหตุพบผู้ประสบภัย ทั้งหมด 14 ราย พบผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 6 ราย แยกเป็นชาวสัญชาติกัมพูชา 5 รายและคนไทย 1 ราย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งนำส่งโรงพยาบาลบางจาก ส่วนอีก 8 ราย ไม่ได้รับบาดเจ็บมีเพียงอาการหนาวสั่น จากการสอบถาม ผู้ประสบภัยทั้งหมด ได้ว่ายน้ำมาจากเรือสินค้าขนาดใหญ่ ประมาณ 10 เมตร เพื่อขึ้นเรือโป๊ะและมายังฝั่งท่าน้ำวัดบางกอบัวเพื่อขอความช่วยเหลือ

 

จากการสอบถามคนงานบนเรือ เผยว่า วันเกิดเหตุบนเรือของเวียดนาม มีปากเสียงกันกับคนงานบนโป๊ะเรื่องงาน จึงทำให้โฟร์แมนซึ่งเป็นคนไทยไปเจรจาเพื่อสงบความเรียบร้อย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงเป็นเหตุให้ คนงานบนเรือบรรทุกสินค้าของเวียดนาม ทะเลาะวิวาทกับคนงานโป๊ะ และโฟร์แมนจึงถูกทำร้ายและได้รับบาดเจ็บ จากการถูกอาวุธมีดรวมทั้งหมด 7 ราย จากจำนวน 15 ราย โดยคนงานทั้งหมดจึงรีบกระโดดหนีตายลงแม่น้ำเจ้าพระยาและเกาะเชือกของทุ่นเรือ เพื่อว่ายน้ำไปขึ้นเรือโป๊ะและขึ้นท่าน้ำวัดบางกอบัว โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 7 รายรวมสูญหายภายในน้ำ 1 ราย 

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 30 ธ.ค.66 เวลา 18.00 น. ที่สำนักกฎหมายธนิดา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายปริญญา แก้วปู่ อายุ 26 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่บุฟเฟต์59บาท byจังหวัดยำ ลูกชายของนายประกรณ์ แก้วปู่ อายุ 48 ปี ผู้สูญหาย เดินทางนำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับน.ส.ธนิดา แจ้งจำรัส หรือทนายนินู เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทย์บนเรือขนสินค้าสัญชาติเวียดนาม ว่าพ่อของตนกระโดดหนีตายจากบนเรือ หรือถูกฆาตกรรมอำพรางศพบนเรือดังกล่าว เพราะผ่านไปกว่า 8 วันแล้ว ยังไม่พบผู้สูญหาย มีการจ้างนักประดาน้ำค้นหาทุกวันบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุทุกจุดแล้วยังไม่พบ รวมถึงตอนนี้ได้มีความกังวลเรื่องของเรือขนสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งถูกตำรวจสน.บางคอแหลม อายัติเป็นของกลางชั่วคราว ได้กำลังโอนถ่ายสิ่งของเพื่อนำเรือกลับประเทศ 

 

นายปริญญา กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 22.30 น.ว่าพ่อมีปัญหากันบนเรือแล้วพ่อกระโดดน้ำหนีไป เวลาประมาณ 21.00 น .ตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ หลังเกิดเหตุตนได้โทรไปหาทางญาติเล่าให้ฟังว่าทางญาตเองไม่ได้เจอคนที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ฟังมาปากต่อปากว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง โดยเล่าว่า พ่อตนทำงานเป็นโฟร์แมนลูกน้องพ่อทำงานอยู่บนเรือลำนี้วันเกิดเหตุพ่อทำงานอยู่เรืออีกลำหนึ่ง ลูกน้องพ่อซึ่งเป็นชาวเวียดนามเป็นลูกเรือของเรือลำนี้ ได้มีการเลี้ยงฉลองปีใหม่อยู่บนระวางเรือที่เปิดให้นำสินค้าถ่ายลง คนงานของพ่ออีกคนให้ชาวเวียดนามเปิดระวางเรือแต่ชาวเวียดนามไม่ยอมเปิดระวางเรือให้เลยมีปากเสียงกันแล้วให้พ่อที่อยู่เรืออีกลำเข้ามาเคลียร์ให้ พอพ่อมาเคลียร์ไม่ลงตัวมีปากเสียงกันพ่อของตนโดนรุม 5-6 คน มีคนบอกว่าพ่อตนกระโดดน้ำหนีเนื่องจากชาวเวียดนามมีทั้งมีดทั้งปืน ไล่ฟันไล่แทงพ่อของตน แล้วมีคนบอกอีกว่าพ่อบอกตอนเกิดเหตุว่าพี่ว่ายน้ำไม่แข็งช่วยพี่ด้วย แล้วก็จมหายไป บางคนก็บอกว่า พ่อกระโดดมาเหยียบหลัง ซึ่งต่างคนต่างพูดไม่เหมือนกัน ตอนนี้ตนสงสัยว่าพ่อกระโดดลงมาจากเรือจริงหรือเปล่า หรือเสียชีวิตตั้งแต่บนเรือแล้วถูกฆาตกรรมอำพรางศพ เพราะว่าตอนนี้ยังหาพ่อไม่เจอผ่านมา 9 วันแล้ว กังวลเรื่องคดีว่าพ่อเสียชีวิตจากบนเรือหรือไม่ หรือกระโดดน้ำลงมาเสียชีวิตด้วยการจมน้ำ 

 

นายปริญญา กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ตนมีความกังวลอยูาก็คือเรื่องเรือบรรทุกสินค้าตำรวจได้อายัดเรือไว้ก็จริงแต่เป็นการอายัดชั่วคราว เกรงว่าหลังปีใหม่เรือลำนี้จะถูกออกนอกประเทศทำให้ตามเรื่องคดียากขึ้น ล่าสุดยังไม่มีทางบริษัทของเรือติดต่อเข้ามาพูดคุย ตอนนี้ตนรู้สึกเครียดนอนไม่หลับทางญาติของตนพยายามจ้างเรือไปติดตามหาพ่อ จ้างเรือหางยาวและเรือข้ามฟาก 5-6 ลำบริเวณที่เกิดเหตุหาทั่วทุกที่ใครบอกตรงไหนก็ไป แต่ยังไม่เจอ ให้นักประดาน้ำมาดำน้ำค้นหาร่างก็ไม่พบเมื่อวานให้นักประดาน้ำมาค้นหาอีกรอบก็ไม่พบ ตนทำหมดทุกทางแล้ว ให้จุดธูปไหว้พระธรณีพระแม่คงคาเปิดทางให้เรียกชื่อพ่อให้กลับมาแต่ก็ยังไม่เจอไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง แม้กระทั่งใต้เรือบรรทุกสินค้าและใต้โป๊ะเรือ ก็ยังไม่พบร่างไปวนหาจนถึง จังหวัดสมุทรปราการ ยังไม่มีวี่แววของพ่อ 

 

นายปริญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ตนรู้สึกเป็นห่วงพ่อก่อนจะเกิดเรื่อง พ่อได้นัดว่าหลังปีใหม่จะพาตนไปกินข้าวเพราะนานๆจะเจอกับพ่อสักครั้ง เพราะตนไม่ได้อยู่ด้วยกันกับพ่อ เนื่องจากพ่อไปททำงานออกเดินเรือไปครั้งนึงกว้าจะเสร็จงานก็ประมาณ 1-2 เดือน ล่าสุดตนเพิ่งรับปริญญาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางพ่อยังไม่เห็นใบปริญญาของตน ตนอยากให้พ่อเห็นแต่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้เสียก่อน พ่อเป็นคนรักเพื่อนมาก พ่อไม่เคยมองว่าใครเป็นลูกน้องหรือใครเป็นคนที่ต่ำกว่าลูกน้องพ่อตนจะเข้าใจดี ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทย์กับใคร 

ตอนนี้กลายเป็นว่าปีใหม่นี้กลายเป็นปีใหม่สุดเศร้า อยากฝากบอกใครที่มีพ่อให้รักพ่อแม่ให้มากๆ ก่อนที่จะสายเกินไป อยากให้คนที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีหรือความเสียหายตนอยากให้ดำเนินคดีคนที่ก่อเหตุทำร้ายพ่อของตนให้ถึงที่สุด ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าเพิ่งให้เรือลำนี้ออกไปจากประเทศเนื่องจากรูปคดีจะดำเนินการยาก อยากให้หาสาเหตุที่แท้จริงเสียก่อน และอยากฝากถึงหมอปลา หรืออาจารย์ต่างๆที่มีความรู้ทางด้าย ไสยศาสตร์ ให้ช่วยเหลือมาดูว่าพ่อของตนอยู่ตรงไหน คงต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์ อยากให้ช่วยเรียกหรือทำพิธีให้เจอพ่อโดยเร็วขึ้นมาให้เร็ว หากพ่อไม่มีชีวิตแล้วก็อยากทำพิธีตามศาสนาต่อไป เพราะตอนนี้ไม่มีวี่แววและไม่มีความหวังแล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อเพราะตนทำมาทุกอย่างแล้วทั้งจุดธูปเรียก ไปไหว้พระ หาหมอดู แต่ก็ยังไม่พบ

 

ส่วนทางด้านทนายนินู กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางด้านคดีนี้มีผู้บาดเจ็บหลายคนได้มีการเดินเข้าไปแจ้งความแล้วที่ สน.บางคอแหลม แต่คนที่สูญหายนั้นมีเพียงนายประกรณ์ แก้วปู่ คนไทย 1 ราย ที่ตกจากเรือ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาตนได้พานายปริญญาซึ่งเป็นลูกชายของผู้สูญหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนสน.บางคอแหลม เพื่อให้ตำรวจติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด ผู้สูญหายเสียชีวิตบนเรือแล้วถูกอำพรางศพหรือไม่ หรือกระโดดน้ำหนีตายแล้วสูญหาย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของการหายตัวไปของนายประกรณ์ ผ่านไปกว่า 8 วันแล้วยังคงไม่พบผู้สูญหาย ส่วนด้านคดีทางตนพร้อมทีมทนายจะดำเนินการยื่นคำร้องขออำนาจศาลให้อายัติเรือลำนี้ไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ตอนนี้ทางลูกชายผู้สูญหายมีความกังวลในเรื่องนี้เพราะยังไม่ได้รับการติดต่อเรื่องการช่วยเหลือเยียวยากับทางเอเจนซีหรือบริษัทของเรือดังกล่าว

 

ทาฃด้านนายประวิทย์ แก้วปู่ น้องชายผู้สูญหาย กล่าวว่า บนเรือมีปัญหาเรื่องลูกเรือเวียดนามไม่ยอมเปิดระวางให้พี่ชายของตนทำงานเพื่อเอาข้าวขึ้นไปบนเรือใหญ่ ได้มีปากเสียงกันและพี่ชายของตนกระโดดหนีลงน้ำ หลังเกิดเหตุการณ์ตนทราบเรื่องจึงรีงเดินทางไปที่เรือดังกล่าว มีแค่ลูกเรือเวียดนามที่เคาะเหล็ก เคาะไม้ เคาะมีดอยู่กาบเรือใหญ่ และคาดว่าตะโกนด่าตนเป็นภาษาเวียดนาม ซึ่งตนฟังไม่รู้เรื่อง จากนั้นมีผู้หญิงที่อยู่หลังเรือตะโกนมาบอกว่าเช็คเกอร์กับลูกเรือที่เอาข้าวสารขึ้นเรือกระโดดลงน้ำหมดแล้ว ตนพยายามวนหาและถามหาพี่ชายของตนตามโป๊ะเรือแต่ไม่พบ มีคนเห็นว่าพี่ชายของตนกระโดดลงมาจากเรือและสูญหายไป พี่ชายของตนทำงานอยู่บนเรือนี้มาหลายปีแล้ว สาเหตุคาดว่าทะเลาะกันเรื่องทำงานเพราะระหว่างเกิดเหตุลูกเรือเวียดนามกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หลังเรือ แต่ไม่ยอมเปิดระวางเพื่อขนของขึ้นเรือ อาจจะมีทะเลาะชกต่อยกันด้วย พี่ชายของตนไม่มีอาวุธอะไรแต่ทางลูกเรือเวียดนามมีทั้งไม้ ทั้งมีด และเหล็ก แรงงานบนเรือบอกว่ามีปืนด้วย วันเกิดเหตุตนไปที่เรือแต่ทางเรือยกบันไดขึ้นเพื่อไม่ให้ตนเดินมาขึ้นเรือได้ เท่าที่ทราบคือพี่ชายของตนกระโดดหนีตายลงน้ำมา โดยที่ว่ายน้ำไม่เป็น เรื่องเกิดตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. ถึงปัจจุบันยังหาพี่ชายของตนไม่พบ เมื่อสักครู่นี้มีนักประดาน้ำและหน่วยทหารเรือมาช่วยดำน้ำค้นหาให้ และสน.บางคอแหลมช่วยประสานงานให้ ทุกคืนตนจะล่องเรือหาพี่ชายของตนแต่ก็ยังไม่พบ ตนเสียเงินเยอะในการตามหาพี่ชาย คนบนเรือไม่เคยมีใครติดต่อมาหรือขอเยียวยาใดๆ ตอนนี้พยายามตามหาพี่ชายของตนให้พบ