ข่าวภูมิภาค
คืบหน้า พ่อเตรียมรับศพน้องนายเด็กวัย 2 ขวบที่รพ.ประกอบพิธีทางศาสนา ลั่นไม่เชื่อข้าวเหนียวติดข้อ ขอตัดขาดไม่อโหสิกรรมให้ 2 ผัวเมีย ยังคิดถึงเป็นห่วงลูกแม้จากไปแล้ว
นนทบุรี คืบหน้า พ่อเตรียมรับศพน้องนายเด็กวัย 2 ขวบที่รพ.ประกอบพิธีทางศาสนา ลั่นไม่เชื่อข้าวเหนียวติดข้อ ขอตัดขาดไม่อโหสิกรรมให้ 2 ผัวเมีย ยังคิดถึงเป็นห่วงลูกแม้จากไปแล้ว
 
     เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีพบศพน้องนาย อายุ 2 ขวบ ที่เสียชีวิตปริศนา โดยพบศพถูกใส่ถุงแช่ไว้ในตู้เย็น โดยบรรยากาศที่สภ.บางบัวทอง ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี มีเพียงพบว่านายหาญณรงค์ ไพรพนม (แบงค์) มีรายชื่อถูกคุมขังในห้องขังของสภ.บางบัวทอง หลังพบสารเสพติดในร่างกาย ส่วนน.ส.มาริสา ทองเอี่ยม (ก้อย) ไม่พบว่ามีรายชื่อถูกคุมขังด้วย เบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีของน้องนาย กับทั้ง 2 คนแล้วในข้อหา 1.ไม่แจ้งการตาย 2.ปิดบังซ่อมเร้นอำพางศพ แต่ทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธตลอดข้อหา จึงต้องปล่อยตัวชั่วคราวแต่สำหรับนายแบงค์ที่ถูกควบคุมตัวเพราะตรวจในร่างกายแล้วพบปัสสาวะเป็นสีม่วงจึงดำเนินคดีในข้อหาเสพสารเสพติด ส่วนน.ส.ก้อยไม่พบสารเสพติด หลังจากนี้ต้องรอผลชันสูตรศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เมื่อทราบสาเหตุการเสียชีวิตจะดำเนินคดีกับทั้ง 2 คนต่อไป
 
     ขณะที่วัดไผ่เหลือง (พระอารามหลวง) อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายนพรัตน์ ดวงงาม อายุ 29 ปี (พ่อแท้ๆของน้องนาย) ได้เดินทางนำเอกสารหลักฐานของน้องนายมาที่วัดเพื่อเตรียมสถานที่ หลังจากไปรับศพลูกชายที่รพ.แล้ว จะนำร่างกลับมาทำพิธีฌาปนกิจทันที เนื่องจากศพน้องนายเริ่มเน่า มีกลิ่นเหม็นจึงจำเป็นต้องเผาทันที่
 
    นายนพรัตน์ กล่าวอีกว่า ตนยังทำใจไม่ได้ กับการต้องสูญเสียลูกชายไปในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากเดินทางไปรับศพน้องนายที่รพ.แล้ว จะนำร่างมาทำพิธีฌาปนกิจทันที่ เพราะร่างของน้องนายเริ่มเน่าเปื่อยส่งกล่ินเหม็น จึงจำเป็นต้องเผาทันที่รอเอาไว้นานไม่ได้ ส่วนเรื่องที่นายแบงค์และน.ส.ก้อยให้การว่าข้าวเหนียวติดคอน้องจนทำให้เสียชีวิตนั้นตนไม่เชื่อ แต่เชื่อว่าที่ลูกเสียชีวิตเพราะนายแบงค์และน.ส.ก้อยทำร้ายน้องนายอย่างแน่นอน เพราะตนเป็นเพื่อนที่สนิทกับนายแบงค์ จึงรู้ว่านายแบงค์เป็นคนเสียงดังค่อนข้างก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง อารมณ์ร้อน จึงมั่นใจว่าการเสียชีวิตของน้องนายเกิดจากการทำร้ายร่างกาย ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ที่ทั้ง 2 คน กล่าวอ้าง ส่วนประเด็นที่ว่านายแบงค์ต้องเอาน้องนายมาเลี้ยงเพราะตนถูกจับข้อหาเสพยา ไม่เป็นความจริงตนไม่เคยถูกจับ แต่เพราะต้องทำงานจนไม่มีเวลาเลี้ยงลูกจึงต้องจำใจฝากให้ทั้ง 2 คนช่วยเลี้ยงตอนตนไปทำงานหาเงินทุกครั้งก็โอนเงินค่าเลี้ยงดูน้องนายให้แบงค์ตลอด 300 บ้าง 500 บ้าง แต่ละเดือนตกเดือนเป็นหมื่น ซึ่งทางนายแบงค์ไม่มีการร้องขอ แต่ตนเป็นคนโอนเงินให้เอง เพราะกลัวลูกไม่มีกิน ตนให้นายแบงค์กับน.ส.ก้อยเลี้ยงน้องนายได้ประมาน 2-3เดือนก่อนเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ตนทำงานตลอด นานๆถึงจะเจอหน้าลูก แต่หลังจากที่แบงค์เอาลูกตนไปเลี้ยงลูกก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเป็นเดผ็กร่าเริงกลายเป็นกลัวคน ไม่เข้าใกล้ใคร ตนก็แค่ได้สงสัย ซึ่งตนก็ติดต่อกับก้อยตลอดก้อยก็ส่งรูปน้องนายให้ตนดูทุกวัน ก็มีแค่ช่วงต้นเดือน ม.ค. 67 ที่ไม่ถ่ายรูปน้องนายส่งมาให้ตนดู พอตนถามไปก็บ่ายเบี่ยงตลอดทุกครั้ง ทุกวันนี้ยังรู้สึกผิดกับน้องนายถ้าย้อนเวลากลับไปได้ตนจะไม่เอาลูกไปฝากให้ทั้ง 2 เลี้ยงอย่างแน่นอนยืนยันจะไม่อโหสิกรรมให้ทั้ง 2 คนชาตินี้ตัดขาดกันเพราะสิ่งที่ทำกับลูกตน ตอนนี้ถ้าน้องนายรับรู้ได้อยากบอกว่าถ้าน้องนายยังอยู่พ่อจะดูแลลูกให้ดีกว่านี้ พ่อขอโทษที่ดูแลลูกได้ไม่ดีพ่อ พ่อเสียใจมาก

 
โพสเมื่อ : 07 ม.ค. 2567,16:35   อ่าน 1385 ครั้ง