ข่าวภูมิภาค
เจ้าของโรงเลี้ยงไก่ร้องทนายดัง ถูกเวนคืนที่ดินสร้างทางด่วนมอเตอร์เวย์บางใหญ่ กาญจนบุรี
นนทบุรี เจ้าของโรงเลี้ยงไก่ร้องทนายดัง ถูกเวนคืนที่ดินสร้างทางด่วนมอเตอร์เวย์บางใหญ่ กาญจนบุรี 
  
  วันนี้ (31 ม.ค.67) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานทนายคู่ใจ จ.นนทบุรี นายฟูศักดิ์ สายทอง อายุ 44 ปี เจ้าของโรงเลี้ยงไก่ ชาวนครปฐม เดินทางเข้าร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง ทำโครงการมอเตอร์เวย์ บางใหญ่ – กาญจนบุรี เวนคืนที่ดินก่อสร้างปิดทางเข้าออกที่ดิน บริเวณ ถนนดอนประดู่-ทุ่งหัวพรหม(ดอนประดู่-บ้านไร่) ต.หนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ทำให้ตอนนี้ที่ดินเป็นที่ตาบอดเข้าออกไม่ได้ เดือดร้อนทั้งให้ราคาเวนคืนที่ดินต่ำกว่าราคาท้องตลาด ขับรถร้องเรียนทำป้ายติดเต็มรถบนทางด่วน แต่ไม่มีความคืบหน้า 
 
นายฟูศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ หลังจากเมื่อปี 2562 กรมทางหลวงทำโครงการมอเตอร์เวย์ บางใหญ่ – กาญจนบุรี ทำให้ตนได้รับผลกระทบถูกเวนที่ดินคืนจากเดิมทีเป็นพื้นที่ตั้งรกรากของทางครอบครัวและมีกิจการที่ทำอยู่เป็นกงสีของครอบครัวมานานมากกว่า 20 ปีแล้ว ทั้งหมดเกือบ 12 ไร่ โดยถูกมอเตอร์เวย์ฝ่ากลางที่ดินของตนทำให้เหลือพื้นที่ประมาณเกือบ 1 ไร่ แบ่งเป็นสองฝั่งของฟากถนนเป็นส่วนหัวและส่วนท้ายโดยแบ่งเป็น 5 ส่วน ทำให้พื้นที่ของตนเป็นที่ตาบอดเพราะถูกรั้วมอเตอร์เวย์ล้อมรอบไม่มีทางเข้าออก ซึ่งเดิมทีแล้วพื้นที่กว่า 12 ไล่ที่ถูกเวนคืนเดิมแล้วในพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานประกอบการค้าสัตว์ปีกเลี้ยงไก่ที่เป็นอาชีพหลักของตนและครอบครัวรายได้ต่อ 1 เดือนประมาณ 100,000 บาท ตอนนี้ได้รับผลกระทบเนื่องจากครอบครัวที่เคยอาศัยอยู่ต้องออกไปหางานทำใหม่ขาดรายได้ โดยมีการประวานไปที่กรมทางหลวงให้ซื้อที่ดินตนทั้งหมด แต่ก็ถูกตอบกลับมาว่าไม่รับซื้อทั้งหมด ต่อมาเมื่อทราบว่ากรมทางหลวงไม่ซื้อที่ดินที่เหลือแล้ว ตนจึงทำหนังสือยื่นเรื่องให้กับอธิบดีกรมทางหลวงเมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2566 ขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยเปิดทางเข้าออกให้เข้าสู่พื้นที่สารธารณะได้ แต่ก็ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับมา ซึ่งพื้นที่ตาบอดตรงนี้ตอนนี้ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลยจากที่เคยเป็นโรงเลี้ยงไก่รายได้ตกเดือนละ 100,000 บาท ต้องย้ายบ้านและย้ายสถานประกอบการออกภายใน 90 วัน และช่วงปี 2563 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยทางภาครัฐจ่ายค่าชดเชยจากการเสียรายจำนวน 10,000 บาท 6 เดือน ซึ่งตนก็เคยยื่นหนังสือเรื่องขาดรายได้แล้ว แต่ถูกอ้างว่าทำตามกฎหมายแล้ว ตนเป็นแค่ประชาชนคนนึงทางภาครัฐพูดมาแบบนี้ประกอบกับการที่ทำมอเตอร์เวย์ก็เป็นการทำเพื่อประชาชนเพื่อส่วนรวมตนจึงคิดว่าตนพูดอะไรมากไม่ได้ 
 
นายฟูศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ประเด็นหลักที่มาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์อยากให้ทางกรมทางหลวงช่วยเปิดทางเข้าออกพื้นที่ตาบอดให้กับตน รวมถึงการเวนคืนที่ดินของภาครัฐให้ราคาต่ำกว่าตลาด จากเดิมที่ราคาตามตลาดจะคิดตารางวาละ 9,000 บาท ในพื้นที่สีเขียวของตนที่ถูกเวนคืนได้ตารางวาละ 3,300 บาท ส่วนในพื้นที่สีตาบอดของตนทางภาครัฐก็ให้ค่าเวนคืนตาม พ.ร.บ. ที่ภาครัฐกล่าวอ้างแต่ให้เพียง 2,900 บาท ซึ่งก็ต่ำกว่าราคาตามตลาดอยู่ดี แต่ถ้าคิดค่าเสียหายประมาณ 4,200,000 บาท ทั้งนี้ตนจึงได้ทำการอุทธรณ์ยื่นเรื่อง ทั้งขอ ค่าเสียหายจากผลกระทบที่เกิดขึ้นและ ขอให้ทางกรมทางหลวง หาทางออก ทำทางเชื่อมให้สามารถเข้าออกพื้นที่ตาบอดมันได้แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ โดยได้รับคำตอบทางวาจาว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากติดโครงการแล้วทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และได้ทำการยื่นอุทธรณ์ร้องศาลปกครองแล้ว แต่ก็ยังต้องรอเวลาอีกหลายปี จึงได้นำเรื่องนี้มาร้องกับทนายรณรงค์ แก้วเพชร และสื่อมวลชนอยากให้ช่วยเหลือ เพราะตนได้รับความเดือดร้อนจริงๆยอมรับเลยว่าไม่ได้อยากได้เงินเพียงแต่อยากได้ทางเข้าออก พื้นที่ตาบอด เพื่อให้สามารถเข้าอยู่ได้เท่านั้น
 
ทางด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมรับเรื่องร้องทุกข์แล้วก็เผยว่าเท่าที่ฟัง ข้อมูลจากเคสนี้แล้วก็พบว่าผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจริง ยอมสละดินให้ทำทางด่วนแล้วยังถูกเอาเปรียบ ซึ่งผู้ร้องเรียนก็ได้ดำเนินการ ยื่นอุทธรณ์ ร้องขอความเป็นธรรม กับศาลปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วแต่ว่ากระบวนการ ในการ ที่จะได้รับการเยียวยา น่าจะนานหลายปี จนคิดว่า เรื่องนี้กลมทางหลวง น่าจะมีมาตรการในการเข้ามาช่วยเหลือ มากกว่านี้ อาจจะใช้กฎกระทรวง หรือปรับเปลี่ยนมาตรการได้ เพราะการให้ราคาที่ดินของผู้ร้อง ในราคาตารางวาละ 2,900 บาทถือว่าถูกมาก และเยียวยารายได้ให้กับผู้ร้องเรียน 6 เดือนเดือนละ หมื่นกว่าบาททั้งที่ผู้ร้องเรียนทำธุรกิจ โรงงาน ค้าสัตว์ ปีก เดือนละแสนกว่าบาท ทำให้กิจการ ต้องล้ม และแยกย้ายไปหาซื้อบ้านอยู่ใหม่ด้วย
 
โพสเมื่อ : 01 ก.พ. 2567,16:41   อ่าน 33 ครั้ง