แม่ร้องสื่อ ลูกชายถูกเก๋งเลี้ยวตัดหน้า ถูกชี้ให้เป็นฝ่ายผิด คดีไม่คืบกว่า 3 เดือน คนขับรถคู่กรณีเห็นเป็นต่างชาติ ขึ้นโรงพักอีกทีกลายเป็นสาวประเภทสอง
วันที่ 9 ธ.ค.67 น.ส.รัชดา อายุ 44 ปี มารดาของนายนิวัฒน์ อายุ 21 ปี เดินทางเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม หลังจากลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ ถูกรถยนต์ขับแซงเลี้ยวเข้าซอยกระทันหัน จึงทำให้หยุดรถไม่ทันพุ่งชนได้รับบาดเจ็บ โดยพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ดองคดีปล่อยเรื่องเงียบนานกว่า 3-4 เดือน และชี้ว่าลูกชายของเธอเป็นฝ่ายผิด
นายนิวัฒน์ ลูกชาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ ไปทำธุระส่วนตัว กระทั่งมาถึงบริเวณปากซอยพรประภานิมิตร 36/2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีรถยนต์ เอ็มจี สีขาว ขับแซงขึ้นมา เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกระทันหัน ทำให้ตัวเองที่อยู่ในเลนซ้ายขับมาตามปกติ เบรกไม่ทันพุ่งชนรถคู่กรณีอย่างจัง แล้วลากไปเฉี่ยวชนกับรถจอดข้างทางอีก 2 คัน
ส่วนตัวเอง ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ข้างขวาหลุด นิ้วมือข้างซ้ายหัก จังหวะที่เหลือบตาขึ้นมามองรถคู่กรณี พบว่ามีชายชาวต่างชาติลงจากประตูด้านคนขับ และมีสาวประเภทสองลงมาจากประตูผู้โดยสารข้างคนขับ จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ มารับตัวส่งโรงพยาบาล และใช้เวลารักษาตัวนานกว่า 1 เดือน ส่งผลให้หน้าที่การงานและการศึกษาเล่าเรียนอยู่ ต้องหยุดชะงัก เพราะว่าอุบัติในครั้งนี้
หลังจาก เดินทางมาติดตามควาบคืบหน้ากับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ เจ้าของคดี ปรากฎว่า ในบันทึกประจำวันเป็นสาวประเภทสองแสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ ซึ่งขัดแย้งกับวันเกิดเหตุที่เห็นชาวต่างชาติ ลงมาจากประตูฝั่งคนขับแล้วเดินหนีเข้าไปในซอย แต่ตำรวจกับประกันภัยคู่กรณี ก็ยังจะให้ตัวเองยอมรับผิด และชดใช้ค่าเสียหาย หากไม่ยอมรับก็ชี้ให้ทั้งคู่ประมาทร่วม
น.ส.รัชดา อายุ 44 ปี มารดา เล่าด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าเธอไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเข้าเดือนที่สามแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตำรวจพยายามชี้ให้ลูกชายเป็นฝ่ายผิด ทั้งที่มีหลักฐานกล้องวงจรปิดว่า รถยนต์เลี้ยวเข้าซอยกระทันหันและเพิ่งเปิดไฟเลี้ยว ในระยะแค่ไม่กี่เมต
ทั้งนี้ จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ความเป็นธรรมตรวจสอบหลักฐานและชี้แจงอย่างละเอียด เพราะว่าลูกชายเองตอนนี้แขนซ้ายไม่สามารถใช้งานได้ปกติ
หลังเกิดอุบัติเหตุ ก็ตกงานรายได้ที่มีก็หดหาย เพราะลูกชายเปรียบเสมือนเป็นเสาหลักของครอบครัว จนกระทั่งมีคนช่วยแนะนำให้เดินทางมาขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 09095356455
|